รีวิวหนังใหม่ 4-7-65

The Northman

รีวิวหนัง The Northman โกรธแค้นเคืองโกรธ…เป็นเงื่อน คมอาฆาตแค้นฉบับชายหนุ่มไวกิ้ง

The Northman เกิดเรื่องราวของ พระราชโอรสแอมเล็ธ ที่ชะตากรรมชีวิตเปลี่ยนทันทีทันใด ภายหลังที่ เฟียล์เนอร์ ผู้มีอำนาจเป็นท่านอาแท้ๆของเขาได้กระทำการฆ่ารวมทั้งลอบปลงพระชมน์พระพ่อซึ่งๆหน้าต่อหน้าต่อตาเขา พร้อมด้วยแย่งบัลลังก์ขึ้นเรืองอำนาจแทน ทำให้เขาจำต้องจรลีหนีไปจากแผ่นดินรวมทั้งตั้งปฎิณาณตนว่าจะกลับมาเอาคืนให้บิดาแล้วก็ช่วยแม่ให้ต้องได้ยาวนานหลายปีผ่านมา แอมเล็ธ อยู่ในกรุ๊ปนักสู้คนโหดเช่นสัตว์ร้าย แม้กระนั้นเมื่อเขาได้พบเห็นกับหญิงราษฎรที่ชื่อ วัลฮาลลา ที่จุดประกายให้เขาเลือกเดินตามชะตาที่ได้ลิขิตเอาไว้อีกรอบ ด้วยการเข้าพวกไปเป็นข้ารับใช้ขายแรงงาน และก็นำพาเขากลับสู่แผ่นดินไวกิ้งอีกครั้ง พร้อมด้วยเจอหน้ากับศัตรูตัวฉกาจที่เขาหมายมั่นปั้นมือจะเด็ดหัว

รีวิวหนังใหม่ 4-7-65

และก็ชำระล้างโกรธแค้นแทนเสด็จบิดาที่รอคอยรอมาแสนนานและก็นี่เป็นผลงานปัจจุบันของผู้กำกับชายหนุ่มที่มีชื่อเสียงว่าทำหนังออกมาได้สุดขั้ว “โรเบิร์ต เอ็กเกอรส์” ทั้งยังการเล่าเรื่องแล้วก็ส่วนประกอบศิลปที่ไปได้เต็มที่ สรุปว่าถ้าหากคุณเคยศึกษางานชิ้นก่อนๆของเขามาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็น The Lighthouse หรือ The Witch นับได้ว่าคุณมีภูเขาไม่พอเพียงที่จะเข้าไปเสพงานหนังชิ้นนี้ของเขาอยู่พอควร ด้วยเหตุว่าจัดว่าหนังหัวข้อนี้คงจะมีรายละเอียดที่เข้าใจง่ายแล้วก็เข้าถึงผู้ชมได้มากขึ้นเยอะแยะกว่าแต่เดิมแน่ๆว่าลูกเล่นที่เป็นลายเส้นงานของ โรเบิร์ต เอ็กเกอร์ส ก็คือใช้เคล็ดลับงานภาพเล่นกับแสงสว่างรวมทั้งเงา

ที่ในหนังแอคชั่นดราม่าเดือดๆยุคไวกิ้งนี้ยิ่งมีส่วนประกอบที่เข้ามือของเขาอย่างดีเยี่ยม เพราะเหตุว่าโทนหนังมืดมาก พูดได้ว่ามืดทึบจำพวกที่ถ้าหากคนใดกันแน่จับโทรศัพท์เคลื่อนที่ขึ้นมามองกึ่งกลางโรงภาพยนต์ก็พอๆกับเป็นการประจานตนเองไปเบาๆอย่างยิ่งจริงๆ เพราะเหตุว่าด้วยช่วงของหนังที่มีจังหวะเล่นกับความมืดมนพร้อมกันกับไปอารมณ์ก้าวหน้า งานออกแบบนี้ยังเป็นจุดเด่นของเขาอยู่ถัดไปโรเบิร์ต เอ็กเกอร์ส ยังได้ร่วมเขียนบทหนังประเด็นนี้ด้วย บอกตามจริงว่าในส่วนของบทหนังบางครั้งอาจจะไม่มีอะไรที่เด่นอะไร

เนื่องจากว่าเค้าเรื่องกว้างๆก็รู้สึกใกล้ตัวเช่นเดียวกับพล็อตละครไทยที่เคยมองตั้งแต่ยุคเด็กรวมทั้งรีเมคมาก็หลายหนอยู่ ก็แค่เรื่องกลับมาล้างแค้นให้กับบิดาแนวเดิมๆแม้กระนั้นพอใช้ได้จังหวะการเล่าเรื่องที่ชักชวนติดตามกับการออกแบบบรรยากาศของหนัง และส่วนประกอบศิลปต่างๆที่แทรกสอดเข้าเอาไว้ภายในหนัง ทำให้บทหนังประเด็นนี้ถูกยกฐานะขึ้นมาได้อีกเป็นกองในเมื่องานดูแล..สอบได้ งานโปรดักชั่นก็ให้ผ่าน มาถึงอีกไฮไลต์ที่ดีเลิศไม่แพ้กันก็คือพาร์ทการแสดง ถือได้ว่าเป็นการจุดระเบิดให้กับผู้แสดงหลายท่านอย่างยิ่งจริงๆ

โดยยิ่งไปกว่านั้น อเล็กซานเดอร์ สการ์สการ์ด ที่เข้าถึงหน้าที่อย่างน่าไว้ใจ มองเห็นได้ถึงความทุ่มเทแล้วก็ซึมลึกเข้าไปในเนื้อแท้ของผู้แสดงนี้อย่างดีเยี่ยม เขาสามารถแบกรับหนังความยาว 2 ชั่วโมงเศษๆหัวข้อนี้ได้อย่างสบาย อีกทั้งการฟิตฝึกรวมทั้งหุ่นโก้ๆราวกับเขาเกิดขึ้นมาเพื่อหน้าที่นี้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง