
The Gray Man ล่องหนฆ่า
รีวิวหนัง The Gray Man ล่องหนฆ่า งานจับ 2 พ่อมาตีกัน ที่มีดีเพียงแค่บู๊ระห่ำหนำใจ!
The Gray Man เกิดเรื่องราวของชายล่องหนเป็นอดีตกาลข้าราชการหน่วยสืบราชการลับของสหรัฐอเมริกา คอร์ท เจนทรี่ หรือ เซียร่าซิกซ์ ที่ โดนัลด์ ฟิตซรอย สมัยก่อนหัวหน้าเป็นผู้ดึงตัวคอร์ทจากคุกกลางมาร่วมงานด้วย เขาเคยเป็นมือสังหารมือแม่นที่หน่วยงานส่งไปทำหน้าที่ แต่ทว่าในตอนนี้เหตุการณ์กลับกลับ ซิกข์ซ์กลายเป็นเป้าฆ่ารวมทั้งถูกไล่ล่าตัวไปทั่วทั้งโลกจากการสั่งของลอยด์ แฮนบวงสรวง สมัยก่อนเพื่อนผู้ร่วมการทำงานที่หน่วยสืบราชการลับของสหรัฐอเมริกาผู้มานะทุกวิธีที่จะกำจัดเขาให้ได้ แต่ว่าข้าราชการดานี่ ไม่แรนด้า จะรอให้ความให้การช่วยเหลือในยามที่เขาอยากได้อย่างที่กล่าวว่านี่เป็นการรวมกลุ่มของคณะทำงานผู้ผลิตและก็ผู้แสดงระดับบิ๊กเนม “โจ กับ แอนโทนี รุซโซ่” (จาก Avengers: Endgame) กลับมาถือจับผลงานระดับบ็อกซ์บัสเตอร์อีกรอบในรอบยาวนานหลายปี แน่ๆว่าพวกเขามีประสบการณ์ชั้นเยี่ยมมาจากวิธีการทำหนังมาร์เวลแล้ว ก็เลยไม่มีอะไรจะยิ่งใหญ่เพียงแค่นั้นได้อีกแล้ว ด้วยเหตุนั้นหนังหัวข้อนี้ก็เลยเปรียบเหมือนการลดดีกรีของพวกเขาลงมาอีกขั้น และก็โชคร้ายที่หนังถูกเทใส่เครื่องปรุงแบบสำเร็จรูปลงไปค่อนข้างจะเยอะแยะไปหน่อย
เป็นจะต้องสารภาพว่า The Gray Man มีงานโปรดักชั่นต่างๆออกจะยิ่งใหญ่แล้วก็เอาจริงเอาจังดี แม้กระนั้นทุกส่วนประกอบที่ใส่มานั้น มันเป็นวัตถุดิบสำเร็จรูปแทบจะทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากบู๊รวมทั้งฉากไล่ล่าต่างๆพวกเราเกือบจะเคยชินมาจากหนังแอคชั่นแนวนี้มาแล้วทั้งหมด เสมือนเอา Mission: Impossible ภาคข้างหลังๆมาผสมกับหนังเชื้อสาย James Bond กับเชื้อสาย Bourne อะไรราวๆนั้น ทุกๆอย่างก็สนุกบนรากฐานความเก่งกล้าฉบับเวอวังดี
อีกส่วนประกอบที่คือปัญหาใหญ่ๆของ The Grey Man ก็คือบทหนัง แม้กระทั่งได้โอกาสมเดิมจาก Avengers: Endgame มาช่วยปั้นเรื่องให้ ไม่ว่าจะหนึ่งในผู้กำกับ กับ “คริสโตเฟอร์ มาร์คัส” และก็ “สตีเฟน แม็กฟีลีย์” ดูเหมือนบทหนังจะยังไม่เข้มข้นกลมกล่อมละมุนละไมดีสักเท่าไหร่ แม้กระนั้นจะโทษบทสิ่งเดียวน่าจะมิได้ ด้วยเหตุว่าการเล่าเรื่องของหนังก็ออกจะขาดความน่าดึงดูดใจไปในจุดเชื่อมหลายๆจุด พวกช่วงต่อระหว่างฉากแอคชั่นต่างๆหนังยังทำรสออกมาได้ค่อนข้างจะจืดชืดไปสักนิดสักหน่อย
บอกเลยว่าฉากบู๊ใน The Gray Man นั้น ทำออกมาได้ดุเด็ดเผ็ดมันและก็น่าละลานตาเกือบทุกฉาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากเปิดเรื่องที่มีเซ็ตฉากเป็นจ.กรุงเทพฯ นับว่าทำออกมาได้ออกจะน่าดึงดูดและก็จูงใจผู้ชมเจริญตั้งแต่เริ่ม ช่วงเวลาที่ฉากอื่นๆก็ระห่ำหนำใจเจริญตลอดทั้งเรื่อง ถึงการเล่าเรื่องจะเป็นจุดบ่อนทำลายอารมณ์ของหนังไปทีละเล็กละน้อยก็ตาม แม้กระนั้นก็จะต้องยกนิ้วให้ในส่วนของงานออกแบบสตั้นท์ต่างๆที่ทำออกมาได้น่าพึงพอใจ