
Father of the Bride
รีวิวหนัง Father of the Bride สูตรสำเร็จ..พล็อตแสนเชย กลับอบอุ่นไปทั้งยังหัวใจ
Father of the Bride เกิดเรื่องราวของ ใบเสร็จรับเงินลี่ นักออกแบบรุ่นใหญ่ที่ประสบผลสำเร็จกับชีวิตที่เริ่มจากการเป็นผู้หลบภัย ย้ายมาปักหลักตั้งภูมิลำเนาที่อเมริกาตั้งแต่ยังไม่มีอะไรเป็นของตนเอง ขณะนี้ลูกๆของพวกเขาเจริญกันหมดแล้ว แม้กระนั้นเขากำลังพบเจอกับปัญหาชีวิตการครองเรือนที่ อิงกริด เมียของเขา ต้องการจะขอหย่า แม้กระนั้นเรื่องของพวกเขาจำต้องหยุดชะงัก เมื่อพบว่า โซเฟีย บุตรสาวคนโตกลับมาเลิศบ้าน
พร้อมทั้งเสนอแนะคู่หมั้นคู่หมายชายหนุ่มให้ได้ทราบจะ และก็คุณต้องการจะจัดงานแต่งกับชายในฝันคนนี้ ทำให้ใบเสร็จรับเงินลี่รู้สึกเซอร์ไพรส์รวมทั้งตระหนกตกใจไปในขณะเดียวกันหนังหัวข้อนี้เป็นการถือเอาหนังสุดคลาสสิกชื่อเดียวกัน ในปี 1950 กับ 1991 รวมทั้งนิยายต้นฉบับของ “เอ็ดเวิร์ด สตรีตเตอร์” มาปัดฝุ่นสร้างใหม่อีกที แต่ว่าปรับเปลี่ยนโครงสร้างต่างๆไปน้อย ส่วนใดส่วนหนึ่งก็คือปรับให้เบื้องหลังเกิดขึ้นกับครอบครัวชาวประเทศคิวบา-อเมริกัน แถบริมฝั่งเมืองฟลอริด้า ที่ถือได้ว่าเป็นคอนเซ็ปต์การผลิตหนังที่เป็นเทรนด์นิยมในยุคนี้ของฮอลลิวูด ที่ชอบใส่ร้ายภาษาละตินรวมทั้งเรื่องราวของผู้หลบภัยในอเมริกาขึ้นมาเล่า รวมทั้งเป็นการสะท้อนสังคมในตอนนี้ได้ในอีกแง่หนึ่งด้วย
แม้กระนั้น Father of the Bride ก็ยังค่อนข้างจะเดินเรื่องราวไปด้วยพล็อตที่เชย…แสนเชย ดังหนังเมื่อ 20-30 ปีกลายได้ พล็อตสไตล์บิดาเจ้าสาวหัวดื้อ-ซน ที่เพียรพยายามจะขวางให้บุตรสาวมิได้สมรสตามมุ่งมาดปรารถนาอะไรทำนองนั้น แน่ๆว่าผู้ชมเกือบจะไม่ต้องติดอะไรเยอะแยะกับการดูหนังประเด็นนี้ เพราะเหตุว่ามันเป็นหนังที่มองง่ายแล้วก็ย่อยง่าย มากับนักแสดงต่างๆมากที่แทรกสอดความน่าเบื่อคลุกเคล้าให้มาด้วยเป็นแพ็คเกจตามสูตรสำเร็จ
โดยผลที่ได้ออกมาก็คือรักผสมสายสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวแบบเดิมๆที่กล่าวโทษแปลกใหม่มิได้แค่นั้น มันเป็นสูตรสำเร็จที่ถูกใส่เข้าในทุกส่วนประกอบอยู่ ซึ่งมันก็มีทั้งยังส่วนดีส่วนเสียผสมปนเปกันไป แม้กระนั้นอย่างต่ำๆผู้ชมก็เอ็นหน้าจอยไปกับความจำเจไปได้อย่างอรรถรสดีแบบเดียวกัน โดยที่ทราบดีว่าสักครู่พล็อตนี้จะมา ประเดี๋ยวพล็อตนั่นจะเป็นอย่างนั้น ก็เป็นหนังที่มองได้เพลิดเพลินง่ายดีแบบเดียวกันนะ
แล้วก็ส่วนประกอบหลักที่ทำให้หนังประเด็นนี้ถูกยกฐานะขึ้นได้ก็น่าจะเป็นกลุ่มแคสติ้งที่ขนกองทัพผู้แสดงภาษาละตินมาแน่น “แอนดี้ กราเซีย” ที่มาเล่นบทนี้ที่ก็คือว่าซ้ำๆซากๆสำหรับเขาอยู่ไม่น้อย ใส่ร้ายป้ายสีน่าเบื่อในค้างแรกเตอร์ก็พอควร แต่ว่าการแสดงที่ไหลลื่นระดับมือโปรของเขาก็ช่วยประคองหนังอีกทั้งหัวข้อนี้เอาไว้น่าพึงพอใจ สมทบด้วย “กลอเรีย เอสฟาน”, “เอเดรียน อาร์โจนา”, “อิซาเบลา เมอร์เซส” รวมทั้ง “ดิเอโก โบเนต้า” ก็ถือได้ว่าแคสติ้งที่ช่วยเหลือหนังหัวข้อนี้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง