
รีวิว The Takedown หนังแอ็กชั่นตลก
รีวิว THE TAKEDOWN หนังแอ็กชั่นตลกโปกฮาสูตรสำเร็จตำรวจคู่ขาจากประเทศฝรั่งเศสที่พอเพียงมีอะไรดีอยู่เช่นกัน
หนังแอ็กชั่นสูตรสำเร็จที่แจ๋วเลย มุกขบขันบางทีอาจจะเข้าใจยากอยู่บ้างเพราะเหตุว่าเป็นภาพยนตร์ฝรั่งเศส พ่วงด้วยฉากโหดเหี้ยมกับโป๊เปลือยแบบจัดหนักกะเอาขำแบบไม่มีเซ็นเซอร์อะไรเลย (ไม่ใช่หนังครอบครัวเปิดให้ลูกมอง) ซึ่งรวมๆรวมทั้งเพียงพอเรียกเสียงหัวเราะได้อยู่เช่นเดียวกัน และก็ไปสนุกสนานเอากับฉากแอ็กชั่นตอนหลังที่จัดหนักเอาการกับฉากขับขี่รถไล่ล่าและก็ระเบิดใหญ่มโหฬารแบบโชว์ให้มองเลยว่านี่ไม่ใช่หนังเน็ตฟลิกซ์ทุนต่ำครับผม (ทุนกลางงานสร้างไม่อัปลักษณ์)
The Takedown ภาพยนตร์ฝรั่งเศที่ประชุมคต่อของ On the Other Side of the Tracks ปี 2012 จากผู้กำกับ Louis Leterrier ที่ทำ Now You see me มาประเด็นนี้เป็นแถวแอ็กชั่นตลกโปกฮากับเรื่องราวคู่ซี้ตำรวจต่างผิวสีจากกรุงปารีส ที่จะต้องมาทำภารกิจปราบผู้ร้ายในเมืองบ้านนอกเล็กๆแม้กระนั้นเรื่องราวกลับแผ่ขยายใหญ่มหึมาระดับประเทศ
หนังภาคแรกของประเด็นนี้มิได้ฉายในไทย และไม่มีในอินเตอร์เน็ตฟลิกซ์ให้ดูด้วย แม้กระนั้นผู้ชมก็สามารถมองประเด็นนี้ได้โดยไม่มีปัญหาอะไร เพียงแค่บางครั้งก็อาจจะมึนงงนิดๆเวลาเรื่องราวย้อนอดีตกันหน่อยเดียว ซึ่งก็มิได้สำคัญอะไรกับการดำเนินเรื่องนัก ด้วยเค้าเรื่องสูตรสำเร็จที่มีทำออกมาจำนวนมากมากมายแล้วกับแนวคู่คิดตำรวจนิสัยไม่เหมือนกัน แต่ว่าเพียงพอมาทำภารกิจร่วมกันกลับจูนเข้าขากันอย่างดีเยี่ยม ซึ่งหัวข้อนี้ก็มาในแนวคล้ายกัน แต่ว่าจุดไม่เหมือนกันหน่อยก็ตรงที่ อุสมาน ดารานำชายหลักเป็นชายหนุ่มผิวดำที่เล่นโดย Omar Sy ผู้ที่เล่นซีรีส์ลูปินในอินเตอร์เน็ตฟลิกซ์ด้วยเหมือนกัน
ซึ่งบทชายหนุ่มผิวดำในหัวข้อนี้เป็นอิงกับปัญหาด้านการเหยียดเชื้อชาติในประเทศฝรั่งเศสที่ยังมีมาตลอดแก้ไม่หาย แล้วเรื่องในภาคนี้ก็ถือจับเอาหัวข้อนี้มาเล่นให้เรื่องราวใหญ่มหึมาเข้าไปอีก โดยอาศัยความเป็นตำรวจผิวดำที่ต่างจากจำนวนมากในประเทศฝรั่งเศสมาผูกกับหัวข้อการเมืองในแวดวงตำรวจ รวมทั้งการบ้านการเมืองแคว้นที่แพร่กระจายไปถึงระดับประเทศด้วยแนวนโยบายไม่ต้องรับผู้ย้ายถิ่นของฝั่งขวาที่เป็นหัวข้ออยู่จริงๆ(ประเทศฝรั่งเศสมีปัญหากับการเปิดรับผู้ย้ายถิ่นมากมาย) ซึ่งข้างที่ต้านสิ่งพวกนี้ก็ยึดมั่นว่าตนเองเป็นผู้รักชาติ แล้วก็คนดำอย่างอุสมานเองก็คือตำรวจที่จำต้องเผชิญกับเรื่องเหยียดกลุ่มนี้ตลอดระยะเวลานั่นเอง
เรื่องราวในภาคนี้เป็นการโคจรกลับมาเจอกันอีกทีของ อุสมานกับฟรองซัว (สวมบทบาทโดย Laurent Lafitte) ซึ่งก็ได้ศิลปินเก่าจากภาคแรกกลับมาทั้งปวง ซึ่งในเรื่องทั้งสองก็แยกจากกันไปมีทางของตนเอง แม้กระนั้นจากคดีเจอศพคนขาดครึ่งท่อน แล้วทั้งสองไปพบกันคนละส่วน ทำให้พวกเขาจำต้องมาร่วมมือกันอีกที ซึ่งโครงเรื่องมันก็วางให้ขำขันในตัวอยู่แล้วกับการอ้างสิทธิสืบคดีศพครึ่งท่อน หนังประเด็นนี้ก็ยังเดินสูตรแอ็กชั่นคอมเมดี้ขำๆราวกับเรื่องอื่น ซึ่งมุกขำขันสำคัญๆของประเด็นนี้เป็นแนวหน้าตายแบบประเทศฝรั่งเศส ซึ่งชาวไทยก็อาจจะไม่ค่อยเคยชินกับมุกแบบที่จำต้องให้ผู้ชมคิดเอาเองถึงขำต่อ แต่ว่าก็ไม่ใช่ว่ากำลังจะถึงกับฝืดอะไรเพราะเหตุว่าในเรื่องก็ยังมุกแบบพื้นๆเชิญชวนให้ขำนิดๆได้เหมือนกัน โดยส่วนมากจะเป็นการแย่งกันเอาหน้าของทั้งสอง ซึ่งก็มองครื้นเครงสวยดีครับผม