รีวิว The Legend of Sarila
The Legend of Sarila เป็นผู้แทนภาพยนตร์แอนิเมชั่น 3 มิติเรื่องแรกของแคนาดา เด่นในเรื่องวัฒนธรรมเอสกิโมสำหรับเรื่องราวของคนวัยหนุ่มสาวสามผู้ที่เดินทางไปยังดินแดนลึกลับเพื่อช่วยเหลือผู้คนจากความยากไร้ ภาพยนตร์ CGI ของ Nancy Florence Savard
เต็มไปด้วยคำพรรณนาที่งงงวยและไม่มีความต่างทางสายตา ไม่น่าจะสมัครสมาชิกเป็นมากกว่าความต้องการรู้ตรงนี้แม้ว่าจะมีนักบรรยายชาวแคนาดาที่มีชื่อได้แก่ Christopher Plummer แล้วก็ Genevieve Bujold ท่ามกลางนักบรรยาย
เรื่องราวเกี่ยวกับชนเผ่าเอสกิโมที่ถูกรุกรามเยอะขึ้นจากความยากจนที่เกิดขึ้นมาจากนางฟ้าที่โหดเหี้ยม ครุกลิก (พลัมเมอร์) หมอปราบผีประจำบ้าน ไม่สามารถที่จะจัดการกับปัญหาได้ แต่ว่าหญิงสูงอายุผู้ฉลาด (บูโจลด์) ได้ชี้แนะเผ่าว่าหาอาหารได้สมบูรณ์บริบูรณ์ในดินแดนไกลของสาริลา ที่ซึ่งมีเพียงแต่ “คนบริสุทธิ์ที่ หัวใจ” เข้าไปได้
คนวัยหนุ่มสาวสามคนเริ่มเดินทางเพื่อค้นหาเงินรางวัล: Poutulik (Tim Rozen) ลูกชายของหัวหน้าหมู่บ้าน คู่หมั้นคู่หมายแสนงามของเขา Apik (Rachelle Lefeverre ) ผู้ซึ่งนำสัตว์เลี้ยงแสนน่ารักน่าเอ็นดูของคุณมาด้วย และก็มาร์ลุกสซี (ดัสติน มัลลิแกน) ผู้ครอบครองพลังอาคมที่กำลังเติบโตของเขาเอง Croolik บากบั่นทำลายภารกิจด้วยการช่วยเหลือจาก Kwatak ลูกน้องกาของเขา
ประสมประสานกับการเสี่ยงภัยล้นหลามที่เกี่ยวพันกับน้ำแข็งบางๆรวมทั้งหมีที่น่าขนลุก ภาพยนตร์หัวข้อนี้ก็เลยขยับจากลำดับพฤติกรรมที่ลุ่มหลงหนึ่งไปยังลำดับต่อไป การันตีว่าตอนความพอใจของผู้ชมที่อายุน้อยจะผิดทดลองอย่างหนักเกินความจำเป็น แม้กระนั้นเอกลักษณ์ตัวเดียวรวมทั้งแอนิเมชั่นทรอคอยปิกที่คาดคะเนได้พิสูจน์ให้มองเห็นถึงความเบื่ออย่างเร็ว
และก็หากแม้จะมีความแปลกใหม่ในฉาก The Legend of Sarila สุดท้ายก็ล้มเหลวสำหรับการร่ายมนตร์ เป็นเพียงแค่การแสดงเสียงที่สุดยอดโดย Bujold รวมทั้ง Plummer ที่น่าไว้วางใจชั่วกัลปวสาน ซึ่งให้พลังพิเศษชนิดเดียวกันกับที่เขาแสดงออกมาในหน้าที่ Shakespearean ของเขา ซึ่งให้ความไม่เหมือนอะไรก็ตาม
ชาวเอสกิโมเป็นชนพื้นเมืองด้านเหนือสุด (พวกเขาใช้ จะเรียกว่าเอสกิโมซึ่งเป็นคำ Algonquin ที่ไม่ประจบหมายคือ “blubber คนรับประทาน”) ตลอดหลายศตวรรษก่อนหน้าที่ผ่านมาพวกเขาได้ปรับปรุงตำนานที่สลับซับซ้อนและก็หนักแน่น ขนบธรรมเนียมทัศนศิลป์ ในตอนทศวรรษ 1970 คณะกรรมการภาพยนตร์แห่งชาติของแคนาดา ส่งแอนิเมชั่นไปที่ Cape Dorset เพื่อฝึกฝนนักแสดง ซึ่งเป็นรายการที่ผลิต a ภาพยนตร์ที่น่าดึงดูดปริมาณหนึ่งรวมทั้งเรื่อง The Owl Who Married a Goose ของ Caroline Leaf
