รีวิว Doctor Strange In The Multiverse Of Madness

รีวิว Doctor Strange In The Multiverse Of Madness เปิดพหุจักรวาลสุดเหวอเกินจินตนาการ

ภาพยนตร์เปิดพหุจักรวาลที่ประสานความสยองขวัญ ขบขันร้าย รวมทั้งรสสไตล์มาร์เวลตลอดสองชั่วโมงที่มิได้เพอร์เฟ็ค เรื่องราวรวบรัดฉับไหวจนถึงบทแอบโหวงเหวงๆดึงมิติของผู้แสดงออกมาฟาดฟันกันไม่แพ้ฉากต่อสู้ หลักสำคัญของการใช้ชีวิตของผู้คน เบเนดิกส์กับอลิซาเบธสู้กันในระดับออสการ์ ผู้แสดงบางตัวก็มาแบบผ่านๆมิได้มีหน้าที่อะไรมากมาย ซีจีแอบลอยตอนต้นเรื่องและก็เรื่องราวช่วงท้ายมันจบง่ายเหลือเกินผิดวิสัยหนังมาร์เวล

แม้กระนั้นโดยรวมก็คือสำราญใจกว่าภาคแรก แล้วก็สามารถมองได้โดยไม่ต้องคิดมาก แต่ว่าไม่เหมาะสมสำหรับเด็กตัวเล็กๆ เนื่องจากว่าหนังมีฉากชั่วร้ายพอสมควรค่อนข้างจะมากมาย (สำคัญสุด! ผู้ที่มิได้ตามจักรวาลมาร์เวลไม่ว่าจะหนังสือ ซีรีส์เรื่อง วันด้าวิสชั่น โลกิ และก็ วอทอิฟ? ในดิสนีย์พลัส ภาพยนตร์อีกกว่า 48 เรื่อง คุณอาจจะงงงันจนถึงไม่รู้เรื่องหรืออินกับอะไรที่อยู่ในเรื่องเลย)

Doctor Strange in the Multiverse of Madness (จอมเวทย์มหารอยดำ ในมัลติเวิร์สมหาภัย) ผลิตขึ้นมาจากนักแสดง ดอกเตอร์สเตรนจ์ ของ มาร์เวลคอมิกส์ ภาพยนตร์สร้างโดย มาร์เวลสตูดิโอส์ ภาพยนตร์ภาคต่อของ จอมเวทย์มหารอยแดง (2016) ที่ดำเนินเรื่องภายหลังจาก สไปเดอร์แมน โนเวย์โฮม รวมทั้ง วันด้าวิสชั่น เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 5 ของ เฟส 4 ควบคุมโดย แซม ไรมี ผู้กำกับหนังสยองขวัญเกรดบีชั้นยอดอย่าง ผีอมตะ แล้วก็ตรีภาคสไปเดอร์แมนของโทบี้ แม็คแกว่งร์ ที่ขอกลับมาจับงานวีรบุรุษอีกรอบข้างหลังวนเวียนกับการเป็นโปรดิวเซอร์มานาน เลยน่าดึงดูดว่าเขาจะพานักแสดงในจักรวาลมาร์เวลไปสัมผัสกับพหุจักรวาลที่เหยเกในแบบของเขายังไงกับดร. สตีเฟ่น สเตรนจ์ในภารกิจคุ้มครองป้องกันจักรวาลจากภัยร้ายที่ใกล้ตัวกว่าที่เขาคิด

ภาพยนตร์มาร์เวลกลิ่นหนังสยองขวัญแบบผีอมตะกับหนังจอมเวทย์พลังเวอร์วัง มันสำราญใจ ขำขัน สยองขวัญ เชิญชวนเหวอและก็สนุกสนานอย่างไม่น่าเชื่อ แม้กระนั้นเนื่องจากว่าหนังมันสั้นเหลือเกินเนี่ยล่ะที่ทำให้ช่องโหว่ของบทมันเยอะแยะ ทั้งยังน้ำหนักของเรื่องราว บทที่รวบรัด และก็ข้อสรุปที่ค่อนข้างจะดื้อรั้นๆกระทั่งกล่าวไม่ไ่ด้เต็มปากหรอกว่าดีเยี่ยมดังที่หนังวิภาควิจารณ์ แม้กระนั้นก็นับได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่ถ้าหากเป็นแฟนมาร์เวลที่ตามมาตลอดก็ห้ามพลาด ส่วนบุคคลภายนอกหากไปดูคงจะได้อารมณ์แบบไปดูบ้านผีสิงหรือรถไฟบิน มองจบแล้วบางครั้งอาจจะต้องการกลับไปตามจักรวาลหรือมองจบแล้วหลังจากนั้นก็ผ่านไปราวกับหนังเรื่องนึง ก็นานาจิตตัง ส่วนผมก็มีความคิดว่าได้มองเห็นแนวทางมาร์เวลความคาดหวังไว้ว่าจะมองเห็นมันฉีกไปไกลก็พอเพียงจะอุ่นใจว่า 10 ปีด้านหน้า มุกมาร์เวลอาจจะมิได้กำลังตันไว และก็อาจมีแนวทางใหม่ซึ่งสามารถมาประยุกต์กับจักรวาลนี้ได้เรื่อย