รีวิว 42 Days Of Darkness แนวคนหายที่ทำให้คล้ายคดีจริง

42 Days of Darkness 47 วันในความมืดมนมิด ซีรีส์ Original Netflix เรื่องแรกของประเทศชิลี แนวสอบปากคำอาชญากรรมคนหายในครอบครัวหนึ่ง ที่เปลี่ยนมาเป็นคดีความเป็นเวลายาวนานกว่า 7 ปี

ซีรีส์ Original Netflix เรื่องแรกของประเทศชิลี แนวสอบสวนอาชญากรรมคนหายในครอบครัว ที่โครงเรื่องมิได้แปลกใหม่ โดยตัวเรื่องอยากทำแนวเหมือนจริงให้เสมือนคดีที่เกิดขึ้นจากเรื่องราวจริงที่มีปัญหาสำหรับในการเอาผิดตัวผู้ร้ายได้ยาก แล้วก็ติดต่อถึงปัญหาอาชญากรรมที่เกิดกับเพศหญิงจริงๆทำให้เรื่องมิได้หวือหวา มีจุดพีคหรือหักมุมอะไรก็ตามจนกระทั่งตอนสุดท้ายเรื่องก็ยังจบแบบไม่บ่งชัดวินิจฉัยอะไรก็ตามทำให้บางครั้งก็อาจจะมองเข้าใจยากนิดหน่อยว่าเพราะเหตุไรเรื่องถึงเลือกจบแบบงี้

ประเด็นนี้เป็นไม่นิซีรีส์ 6 ตอนสุดท้ายสั้นๆแล้วก็ถูกเน็ตฟลิกซ์ประชาสัมพันธ์ว่าเกิดเรื่องแรกของประเทศชิลี ซึ่งก็บางทีอาจจะมิได้มีอะไรน่าดึงดูดนัก ด้วยเหตุว่ารวมๆแล้วพวกเราก็ออกจะแยกไม่ออกอยู่ดีในฐานะซีรีส์จากประเทศเล็กๆที่ไม่คุ้นเคยมากแค่ไหน

เค้าโครงเรื่องราวค่อนข้างจะพื้นๆเกิดเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งที่แม่ล่องหนไป และก็พบว่ามีโทรศัพท์ข่มขู่ว่าลักพาตัวไป ผัวก็เลยเข้าฟ้องร้องกับตำรวจก่อนการตามหาคุณกันยาวนานถึง 42 วัน ซึ่งก็เปลี่ยนมาเป็นชื่อนี้นั่นเอง

เนื่องจากว่าเค้าโครงเรื่องพื้นๆมากมาย กับแนวคนหาย ประเด็นนี้ก็เลยทำออกมาให้มองคล้ายความเป็นจริง โดยอิงกับคดีอาชญากรรมที่เกิดกับสตรีในประเทศชิลีว่ามาจากคนภายในครอบครัวเองทำมากมาย จุดนี้เป็นขั้นตอนการดำเนินเรื่องนี้ที่ว่าจากการตามหาคนหายใน 3 ทีแรกๆ ที่เรื่องก็สโลว์เล่าไปเรื่อยเอื่อยเฉื่อยเน้นย้ำดราม่าเงื่อนความทุกข์ใจของครอบครัว รวมทั้งมีเงื่อนผิดสังเกตุหลายประเภทกับข้อเท็จจริงของผัว ซึ่งตัวเรื่องก็ชักชวนให้รู้สึกว่าที่จริงแล้วเขาบางครั้งก็อาจจะเป็นอาชญากรตัวจริงที่คิดแผนลักพาตัวเมียเขาเองก็ได้

กระทั่งเรื่องมาเผยในตอน 4 ว่าเปลี่ยนเป็นคดีการสังหารไป ซึ่งจากนี้เองที่เรื่องมาในแนวสืบสาวจากมุมมองของทนายความกับตำรวจที่พากเพียรอย่างมากจะเอาผิดตัวผัวให้ได้ ซึ่งความเพลิดเพลินของเรื่องจะมาขณะนี้ล่ะ ว่าสรุปแล้วจริงๆเขาเป็นคนร้ายฆ่าภรรยาตนเองไหม ในเมื่อหลักฐานเกือบจะไม่พอต่อการชี้ว่าเขาทำไม่ดี แล้วข้อเท็จจริงคืออะไร ตัวเรื่องมานะเอาหลักฐานที่มีตั้งแต่เดิมมาประกอบร่างใหม่เปลี่ยนเป็นความเชื่อถือที่ไม่เหมือนกัน โดยมีทนายความปัญหาที่มานะต่อเรื่องให้พลิกฟื้นคดีนี้กลับมาในศาลภายหลังที่ผ่านไป 7 ปี

ในเวลาที่ข้างตำรวจเองกลับแปลความหมายหลักฐานที่มองเห็นนั้นเกิดเรื่องเล่าแตกต่างไปอีกในลัษณะหนึ่ง ทำให้ตัวผัวแปลงเป็นเชลยสังคมที่น่าเวทนา ซึ่งตัวเรื่องแอบหลอกผู้ชมให้ไขว้เขวไปไขว้เขวมาได้เยอะพอสมควร เป็นไม่ว่าอย่างไรก็ยังคลุมเคลือว่าข้อเท็จจริงคืออะไร ทำให้เรื่องระยะหลังมีข้อความสำคัญน่าดึงดูดน่าติดตามไม่ถูกกับขั้นแรกมากมายแม้กระนั้นปัญหาของเรื่องก็มาในตอนสุดท้ายที่ไขคดีสู้กันในศาล ตัวเรื่องตัดบทสู้กันในศาลให้เป็นสรุปจบกล้วยๆและจากนั้นก็มิได้เฉลยคำตอบข้อเท็จจริงของเรื่องว่ายังยังไงกันแน่

ถึงแม้พอเพียงจะเข้าจิตใจโอนเอียงได้ว่าน่าจะเป็นคดีความการฆ่าสังหารจริงๆซึ่งรู้เรื่องว่าตัวเรื่องเพียรพยายามทำให้คดีในหัวข้อนี้เหมือนจริงว่าคนผิดหรือผู้กระทำผิดกฎหมายผิดลงอาญาจากฎหมายได้อย่างไร แต่ว่าความที่เรื่องไม่ชี้ให้แจ่มชัดคงจะทำให้คนสับสนกับตอนสุดท้ายพอเหมาะพอควรว่าสิ้นสุดกันกล้วยๆอย่างงี้เลยหรือ แต่ว่าก็ไม่นับว่าห่วยแตก ถือว่าเป็นซีรีส์จากประเทศชิลีเรื่องแรกศูนย์รวมๆและก็ผ่านมาตรฐานได้ แต่ว่าเพียงแค่ปราศจากความสดใหม่ในเค้าโครงเรื่องแค่นั้นนะครับ