
รีวิวหนัง The Irishman คนใหญ่ไอริช – ธีมพาร์คมาเฟียของลุงมาร์ตี้
The Irishman เล่าราวในเลวช่วงเวลาร่วม 50 ปีในชีวิตของ แฟรงค์ ชีแรน (โรเบิร์ต เดอ นีโร) จากสิงห์รถบรรทุกส่งขาข้างหลังโคไปทำสเต๊ก
สู่แวดวงมาเฟียด้วยการชักจูงของ รัสเซล บัฟฟาลิโน (โจ เพสซี) ที่เปลี่ยนแปลงให้แฟรงค์ได้ลิ้มชิมรสการฆ่าคนเพื่อเลี้ยงชีวิตในฐานะมือสังหาร ก่อนเขาจะได้เลื่อนฐานะไปเป็นผู้ติดตามของ จิมมี ฮอฟฟา (อัล ขว้างชิโน) เจ้าพ่อที่สหภาพแรงงานที่นำลาภขั้นเกียรติศักดิ์มาให้แฟรงค์ได้สัมผัส แม้กระนั้นในแวดวงสีเทา..มิตรรวมทั้งศัตรูบางทีอาจแปลงได้เพียงแค่ชั่วช้าข้ามคืน
ข้างหลังวิวาทะอันเร่าร้อนจากการไปวิภาควิจารณ์หนังมาร์เวลว่าเป็นเพียงแต่สวนสนุกไม่ใช่ภาพยนตร์ ก็คงเพียงพอทำให้คนรุ่นหลังได้ยินแล้วก็รู้จักชื่อ มาร์ติน สกอร์เซซี (Martin Scorsese) บ้าง แม้ว่าจะในฐานะศัตรูที่ช่วงของหนังซูเปอร์ฮีโรมาร์เวลตามทีเถิด แม้กระนั้นหากต้องการให้เอ๋ยถึง สกอร์เซซี หรือ คุณลุงมาร์ตี้ แบบโดยย่อก็พอเพียงกล่าวได้ว่าผลงานของคุณลุงโดยมากมักเกี่ยวเนื่องกับเรื่องราวแนวแอนตีฮีโร ชีวิตตัวนำมักพบเจอกับโชคชะตาที่บัดซบบ่อยๆเพื่อจะได้ก้าวผ่านกรรมหนักชีวิตตนเอง
ซึ่งมีอีกทั้งภาพยนตร์ตลกอาชญากรรมอย่าง The King of Comedy (1982) หนังดราม่าประวัติบุคคลสำคัญอีกทั้ง นักมวย (Raging Bull, 1980) ดาไลลามะ (Kundun, 1997) มหาเศรษฐี (The Aviator, 2004) บิดามดตลาดหลักทรัพย์ (The Wolf of Wallstreet,2013) โดยหนังของคุณลุงมาร์ตี้จะเด่นเรื่องความร้ายแรงเป็นหลัก แล้วก็หนังแนวหนึ่งที่คุณลุงมาร์ตี้ทำบ่อยเป็นประจำยกตัวอย่างเช่นหนังมาร์เฟีย ที่เด่นที่สุดเห็นจะเป็น Goodfellas (1990) ที่สื่อต่างประเทศอดเอามาเปรียบเทียบกับ The Irishman หัวข้อนี้มิได้ อีกทั้งการเล่าเรื่องของมิตรภาพลูกผู้ชายในแวดวงมาเฟีย รวมทั้งการปรากฎตัวของลูกค้าขาประจำหนังคุณลุงมาร์ตี้อีกทั้ง โรเบิร์ต เดอ นีโร แล้วก็ โจ เพสซี ซึ่งก็มาจาก Goodfellas แบบเดียวกัน แต่ก็จำเป็นต้องกล่าวว่า The Irishman เองก็เป็นสิ่งที่ใช้พิสูจน์การบ่มเพาะประสบการณ์ทำหนังจนได้สถานะ Master of Cinema หรือ เอตทัคคะด้านภาพยนตร์คนหนึ่งในโลกภาพยนตร์ของชายชื่อ มาร์ติน สกอร์เซซี ได้อย่างดีเยี่ยม
ความสะดุดตาของบทภาพยนตร์ The Irishman ของ สตีเฟน สิลเลียน (ซึ่งดัดแปลงแก้ไขมาจากนิยายของ ชาร์ลส์ แบรนด์) ได้แก่การใช้ช่วงเวลา 50 ปีในชีวิตผู้แสดงเพื่อเล่าคู่ขนานไปกับประวัติศาสตร์ของอเมริกา ตั้งแต่การบุกประเทศคิวบาอันล้มเหลวที่ เบย์ออฟพิก หรือการลอบฆ่าผู้นำ จอห์น เอฟ เคนเนดี โดยใช้เรื่องทางด้านการเมืองมากมายล่าวถึงกระแสลมเปลี่ยนแปลงด้านที่ผลักนักแสดงให้พบเจอปมได้แนบเนียน (ถ้าเทียบกับนิยายไทยก็บางทีก็อาจจะใกล้เคียงกับ ระบบประชาธิปไตยบนเส้นขนานของ วินทร์ เลียววาริณ) โดยหนังสร้างโลกมาเฟียที่มีองค์ประกอบเด่นชัดผ่านสหภาพแรงงานที่ประธานสหภาพแทบจะไม่ได้มีความแตกต่างจากหัวหน้ากลุ่ม เป็นระบบเลี้ยงดูแบบเจ้าพ่ออย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งจุดเด่นสิ่งแรกเลยเป็นทำให้มันแตกต่างจากหนังมาเฟียจำนวนมากที่จะวนเวียนกับการค้าของผิดกฎหมาย หรือฆ่ากันด้วยเหตุว่าขัดผลประโยชน์เชิงพาณิชย์ แต่ว่าใน The Irishman กลับเล่นอยู่สองหลักสำคัญที่เด่นโน่นเป็น ความสัมพันธ์ แล้วก็ กลไกอำนาจ ที่ขับให้ผู้แสดงเจริญ หรือ เสื่อมถอย ไปจนกระทั่ง ผสานผลตอบแทน หรือ แตกหัก ได้อย่างเป็นเหตุได้ผล แล้วก็กระทบกับอารมณ์ความรู้สึกผู้ชมได้อย่างหนักมากกว่าฉากยิงกันเลือดกระจัดกระจายเสียอีก