รีวิวหนัง moonfall

รีวิวชวนดู Okja Netflix หนังหมูที่ไม่ใช่แค่หมู

รีวิวชวนดู Okja Netflix หนังหมูที่ไม่ใช่แค่หมู จากผู้กำกับ Parasite ผู้ครอบครองรางวัลลูกโลกทอง 2020

หนึ่งในหนังน้ำดีของผู้กำกับ Bong Joon Ho ที่งานออกจะสม่ำเสมอ ทั้งยังในเรื่องความแมสในเรื่องราวที่มองง่าย แต่ว่ามีหัวข้อแทรกสอดให้คิดได้หลายชั้น หากว่าบางทีอาจจะมิได้ดีเยี่ยมที่สุดถึงกับขนาดได้รางวัลแบบ Parasite แต่ว่าก็รับรองได้เลยว่ามีคุณค่าแก่การดูนะครับ

Okja (ออกเสียงว่า โอคจา) เป็นหนังทุนสร้าง Neflix เรื่องก่อนหน้า Parasite ของผู้กำกับประเทศเกาหลี “บงจุนโฮ” (Bong Joon Ho) ที่พึ่งพิงได้รางวัลจากลูกโลกทอง 2020 มาหมาดๆซึ่งความพิเศษของเรื่อง Parasite จนได้รางวัลโน่นเนื่องจากหนังมีเอกลักษณ์ส่วนตัว ขบขันเสียดสีสังคมไม่อ้อมค้อมสูงที่สุดของผู้กำกับคนนี้เลยก็ว่าได้ (อ่านรีวิว parasite คลิกตรงนี้)

รีวิวหนัง ambulance

ซึ่งถ้าเกิดใครกันแน่เคยศึกษางานของผู้กำกับบงจุนโฮมาก่อน หากแม้บางทีก็อาจจะจำชื่อเขามิได้ แต่ว่าก็จำต้องพอเพียงจำเอกลักษณ์ลายเซ็นต์เรื่องราวเกี่ยวกับชนชั้นทางสังคมที่เขาใส่ไว้ โดยพุ่งประเด็นไปที่คนยากจนไม่ค่อยได้รับโอกาศ โดนแบ่งชนชั้นแบบจำยอมสารภาพภาวะ กับจำต้องดิ้นรนหาทางไต่เต้าเองให้รอด หรือขึ้นไปอยู่ในจุดเดียวกัน ซึ่ง Parasite จะเกิดเรื่องราวที่ชัดเจนสุดในประเด็นนี้ แม้กระนั้นก่อนที่จะมาถึงจุดนี้ เขาได้สร้างเชื่อเสียงในระดับอินเตอร์จากการใส่ข้อความสำคัญเหล่านี้มาตั้งแต่หนังอสูรกาย The Host ปี 2006 (มองผ่าน Netflix คลิกตรงนี้) ที่ถึงแม้ว่าคนจะไปพึงพอใจเอฟเฟ็กต์ CG ที่นับว่าเนี๊ยบมากมายในสมัยนั้นจนกระทั่งในขณะนี้ แล้วก็เป็นหนังอสูรกายจากประเทศเกาหลีที่เรียกว่าขึ้นหิ้งในระดับสากลโลก โดยไม่ใช่แค่ CG ที่ดี แม้กระนั้นเรื่องราวในหนังมีข้อความสำคัญทางด้านสังคมแทรกสอดไว้เนียนๆดีเลิศ โดยหนังเกิดเรื่องราวฝูงชนปกติหาเช้ากินค่ำที่จะต้องออกช่วยคนที่อาศัยอยู่ในครอบครัวให้รอดจากตัวประหลาดที่เกิดขึ้นจากมลภาวะโรงงาน รวมทั้งถัดมาด้วย Snowpiercer (ประเด็นนี้มีในอินเตอร์เน็ตฟลิกซ์แม้กระนั้นติดโซนมองได้เพียงแค่อเมริกา) ซึ่งเกิดเรื่องที่เกิดขึ้นบนรถไฟในโลกดิสโทเปียที่แบ่งคนจากตู้ขึ้นรถเป็นชนชั้นต่างๆกัน

พูดได้ว่างานของผู้กำกับบงจุนโฮควรมีเรื่องเหล่านี้ติดไปในหนังทุกเรื่องราวเสมอ แล้วก็หนังของเขาก็ไม่ใช่แบบอินดี้มองยาก แต่ว่าเป็นหนังที่ออกจะแมสแทบทั้งนั้น เพียงแค่มากมายน้อยไม่เหมือนกันไปแต่ละเรื่อง ซึ่งโอคจาก็เป็นหนังที่ทำลง Netflix ให้ผู้ชมในสตรีมมิ่งจนได้รับเสียงฉาวโฉ่จากเทศกาลหนังเมืองคานส์ 2017 จากดราม่า “หนังน้ำดีแต่ว่าไม่อาจมอบรางวัลให้ได้” เพราะเหตุว่าเพียงแค่ไม่ใช่หนังที่สร้างมาเพื่อฉายโรงแค่นั้น (เป็นหนัง Netflix เรื่องแรกที่ทำออกมาฉายในระบบสตรีมมิ่ง พร้อมทั้งนำไปฉายในโรงประเทศเกาหลีใต้พร้อม)

ตัวอย่างหนัง Okja โอคจา

หนังหัวข้อนี้เอ๋ยถึงเรื่องราวในอนาคตอันใกล้นี้ที่แวดวงของกินจะถูกต้านทานจนกระทั่งล่มจมลงจากเรื่องตัดต่อพันธุกรรม GMO ทั้งหลายแหล่เพื่อการค้าขาย Okja เป็นชื่อหมูตัวนึงที่ถูกโปรโมทว่าเป็นหมูยักษ์จากธรรมชาติไม่ผ่านการปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงอะไรก็ตามซึ่งเลี้ยงแบบปลดปล่อยอิสระในหมู่บ้านต่างจังหวัดโดยเด็กหญิงคนนึงตั้งแต่ 4 ขวบจนถึงคุณอายุ 14 ถึงได้รับรู้ว่าโอคจาที่คุณรักสุดชีวิตเสมือนครอบครัวต้องเปลี่ยนมาเป็นเหยื่อประชาสัมพันธ์สร้างภาพให้บริษัทผลิตอาหารยักษ์ที่ครอบครองโลกนี้อยู่ การเดินทางเพื่อช่วยเหลือโอคจาให้รอดก็เลยเกิดขึ้น กับรับทราบเรื่องราวระบบทุนนิยมแอบแฝงความอำมหิตเลวทรามผ่านการเสี่ยงอันตรายในเมืองใหญ่ที่คุณไม่ทราบจะมาก่อน

นี่เป็นหนังที่มองแฟนตาซีแบบเหมือนจริงไปในตัว อย่างที่ผู้กำกับว่าไว้ว่าไม่อยากที่จะให้มีความคิดว่าเป็นหนังไซไฟแฟนตาซีอะไร เพราะเหตุว่าสิ่งที่เขาเล่านี้ในอนาคตจะเป็นจริงได้แน่ๆ ซึ่งหนังเล่าได้ลื่นไหลน่าติดตามทั้งยังเรื่อง พร้อมกับการแสดงที่สมหน้าที่ผสมโอเวอร์แอ็กติ้งของตัวร้าย ที่มองเสียดสีแวดวงของกินในคราบเปื้อนระบบทุนนิยมเลวทรามที่ติดการผลิตภาพลักษณ์ให้ดูดีออกสื่อตลอดระยะเวลา ถึงแม้ว่าเบื้องหน้าเบื้องหลังฉ้อโกงคนซื้อมาตลอด แบบสารคดี food inc (มีในอินเตอร์เน็ตฟลิกแต่ว่าติดโซนอเมริกาไม่มีซับไทย) ซึ่งโอคจาก็ทำมาคล้ายคลึงกัน หลักสำคัญเดียวกัน

CG ตัวหมูยักษ์โอคจาเองก็ออกมาน่ารักน่าเอ็นดูน่าฟัด มองสมจริงสมจังผสมกันจนกลมกลืไปกับฉากต่างๆอีกทั้งในป่าในเมืองได้เก็บเนื้อหาได้เนี๊ยบมากมาย แถมผู้แสดงเด็กในเรื่องได้ก็เล่นคู่กับโอคจา CG ออกมาอย่างเป็นธรรมชาติเหมือนจริง กระทั่งเป็นหนังแนวอสูรกายน่ารักน่าเอ็นดูที่มองไปลุ้นไปไม่ให้มันจะต้องกลายเป็นเหยื่อของแวดวงของกินที่มีเบื้องหน้าเบื้องหลังไร้มนุษยธรรมมากมาย แต่ว่าอย่างที่บอกไปนี่ไม่ใช่หนังใสๆตัวหนังดำเนินเรื่องไปเรื่อยก็ยิ่งสมจริงสมจังบีบคั้นผู้ชมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆๆมันไม่ใช่หนังที่จะดูแล้วแฮปปี้ได้นัก ด้วยเหตุว่าระยะหลังเป็นการเปิดเผยข้อเท็จจริงที่หากแม้พวกเราจะเห็นอกเห็นใจเจ้าหมูยักษ์นี้มากมาย แม้กระนั้นพวกเราก็ไม่อาจจะแปลงเรื่องจริงของโลกใบนี้ได้ ในประเด็นนี้ไม่มีตัวร้ายที่เพอร์เฟ็ค และไร้คนดีบริบูรณ์พร้อมในหัวข้อนี้ รวมทั้งแม้กระทั้งตัวเราเองก็เหอะที่ก็หนีไม่พ้นเป็นผู้ส่งเสริมและสนับนุนหลักให้มีการกระทำทารุณสัตว์ที่เอามาเป็นของกินอยู่ดี ซึ่งหนังตีแสกหน้าผู้ชมได้อย่างจัง แต่ว่าไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะท้อแท้จนกระทั่งดูไม่ได้ ยิ่งเป็นแฟนสัตว์มองจบยิ่งรักหนังหัวข้อนี้เข้าไปอีก ถึงแม้ว่าพวกเราแปลงโลกมิได้ แต่ว่าพวกเราก็ช่วยเหลือกันปรับแต่งทำให้โลกดียิ่งขึ้นได้ หนังบ่งบอกถึงมิตรภาพกับสัตว์ที่เป็นมากกว่าคน เพียงแค่เขาไม่สามารถพูดได้ ไม่ใช่ว่าจะไม่มีความรู้สึกราวกับพวกเราครับผม